ไฮโดรมิเตอร์ hydrometer

-20% ไฮโดรมิเตอร์ hydrometer

Hydrometer ไฮโดรมิเตอร์  

ไฮโดรมิเตอร์ เครื่องมือวัดความถ่วงจำเพาะสำหรับตรวจเช็คดูแลแบตเตอร์รี่รถยนต์ให้คงสภาพการใช้งาน และยืดอายุการใช้งานเพื่อให้ยาวนาน


คุณสมบัติ

ความยาว 30 เซนติเมตร น้ำหนัก 0.1 กิโลกรัม ไฮโดรมิเตอร์มีอุปกรณ์การทำงานทั้งหมด 4 ชิ้น 1.ตัวไส้วัดค่าความถ่วงจำเพาะพร้อมติดมาตรวัดค่า  2.หลอดแก้วสำหรับใส่ไส้วัดค่า 3.หัวดูดที่ใช้จุ่มลงในแบตเตอร์รี่รถยนต์ทั่วไป 4.หัวบีบ เพื่อบีบปั๊มดูดน้ำกรดจากแบตเตอรี่ขึ้นมาวัดค่าความถ่วงจำเพาะ ขั้นตอนการประกอบนำหลอดแก้วมาต่อ สวมกับหัวบีบปั๊มดูดน้ำซึ่งมีลักษณะลูกกลมๆ ทางด้านหนึ่งมีช่องอยู่ให้นำหลอดแก้วสอดใส่เข้าไปเสร็จแล้วนำใส่หลอดที่มีมาตรวัดค่าตัวไส้จะมี2ด้าน ด้านฐานกับด้านปลายซึ่งด้านฐานจะมีก้อนผงหยาบๆ ซึ่งใช้วัดความถ่วงจำเพาะส่งด้านปลายมาถึงตรงกลางจะมีมาตรวัดติดอยู่ให้นำด้านปลายใส่เข้าในหลอดแก้วให้ทางปลายอยู่ทางด้านหัวปั๊มดูดน้ำเสร็จแล้วนำหัวจุ่มที่มีลักษณะเป็นหลอดยาวๆ มาปิดที่ปลายหลอดแก้วอีกด้านหนึ่ง ด้านฐานของไส้วัดค่าเพียงเท่านี้ ไฮโดรมิเตอร์ของเราก็พร้อมใช้งานแล้ว


วิธีการใช้งาน

เวลาที่ใช้งานการวัดค่าของน้ำที่อยู่ในแบตเตอรี่ ซึ่งมีความเป็นกรดสูงหรือน้ำกรดนั่นเองซึ่งเป็นอันตรายเมื่อถูกตัวอาจเป็นแผลพุพองหรือถ้าเข้าตา ตาก็อาจจะบอดได้ หรือถ้าโดนเสื้อผ้า ผ้าอาจจะเปื่อยยุ่ยหรือขาดได้ เพราะนั้นก่อนใช้งานทุกครั้งควรสวมถุงมือและแว่นตาและแต่งกายให้มิดชิดเพื่อเซฟตี้ ตัวเราก่อน หลังจากนั้น เปิดฝาน้ำกลั่นของแบตเตอรี่ให้ครบทุกฝา ส่วนแบตเตอรี่รถยนต์ที่เรานำมาวัดต้องเป็นแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพการใช้งานแล้วไม่สามารถเก็บไฟอยู่เพื่อที่จะมามาทำให้พื้นกลับคืนสู่สภาพการใช้งานที่ปกติโดยไม่ต้องทิ้งและต้องเสียสตางค์ซื้อแบตเตอรี่ลูกใหม่ ซึ่งมีราคาแพงลูกละไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท เราสามารถนำแบตเตอรี่เก่าที่เสื่อมสภาพการใช้งานโดยการปรับกรดของน้ำที่อยู่ในแบตเตอรี่โดยใช้เครื่องมือไฮโดรมิเตอร์ตัวนี้เป็นตัววัดนั่นเอง  เดี๋ยวเราย้อนไปที่ขั้นตอนการเปิดฝาแบตเตอรี่เสียก่อนหลังจากนั้นนำตรงปลายของเครื่องไฮโดรมิเตอร์ที่มีลักษณะเป็นหลอดจุ่มลงในช่องเต็มน้ำกลั่นทีละช่องเพื่อวัดค่าความเป็นกรดค่าความเป็นกรดของน้ำที่อยู่ในแบตเตอรี่ ค่าปกติอยู่ที่ 1.25-1.28 เป็นค่าที่แบตเตอรี่เก็บไฟอยู่ใช้งานได้ปกติ ส่วนค่าน้ำกรดช่องที่วัดค่าได้มากกว่า 1.28 นั่นก็แสดงว่าน้ำในช่องนั้น เป็นกรดจัดไม่สามารถเก็บไฟอยู่ เราต้องนำน้ำในช่องนั้นๆ ออกมาทำการปรับกรดภายนอกใส่ไว้ในภาชนะซึ่งเป็นพลาสติกซึ่งไม่ทำปฏิกิริยากับน้ำกรด ห้ามนำภาชนะจำพวกเหล็กอลูมิเนียม หรือโลหะต่างๆ มาเป็นภาชนะใส่เด็ดขาดเพราะโลหะจะทำปฏิกิริยากับน้ำกรด พอดูดน้ำในแบตเตอรี่ที่วัดค่าเกิน 1.28 ขึ้นไป ออกมาได้แล้วเราก็ทำการปรับกรดโดยการเติมน้ำกรดเข้มข้นลงไปผสมทีละน้อยแล้วคนให้เข้ากันแล้ววัดค่าด้วยไฮโดรมิเตอร์ไปเรื่อยๆ จนค่าอยู่ที่ 1.25-1.28 ก็แปลว่าทำการปรับกรดใช้ได้แล้วแล้วนำกลับลงไปใส่ในแบตเตอรี่ เหมือนเดิมที่ปริมาณที่เหมาะสมโดยที่แบตเตอรี่จะมีมาตรวัดปริมาณน้ำในแบตเตอรี่ให้เราดูเพื่อให้เติมตามเกณฑ์ที่ขีดไว้ เสร็จแล้วทำการชาร์ตแบตเตอรี่ โดยเครื่องชาร์ตแบตเตอรี่ จนไฟเต็มก็จะสามารถนำแบตเตอรี่กลับมาใช้งานได้อีกครั้งหนึ่งโดยไม่ต้องนำไปทิ้ง ในกรณีที่เราวัดน้ำในแบตเตอรี่แล้ววัดค่าได้ต่ำกว่า 1.25 ลงมานั่นก็แสดงว่าน้ำในแบตเตอรี่ของเรา เข้มเกินไปหรือกรดมากเกินไปเราก็ต้องนำออกมาปรับกรดเหมือนกันโดยการค่อยๆ เติมน้ำกลั่นลงไป เจือจางให้ค่าความเป็นกรดจืดขึ้นแล้วค่อยๆ วัดค่าให้ค่าอยู่ที่ 1.25-1.28 เสร็จแล้วก็เติมกลับเข้าไปในแบตเตอรี่ แล้วชาร์ตไฟจนเต็มเพียงเท่านี้เราก็สามารถนำแบตเตอรี่กลับมาใช้งานใหม่เช่นเดียวกัน แนะนำว่าไม่ควรปรับกรดภายในแบตเตอรี่ควรดูดน้ำออกมาใส่ภาชนะแล้วปรับกรดด้านนอกเสร็จแล้วค่อยเติมกลับเข้าไปใหม่ ถ้าทำการปรับกรดภายในแบตเตอรี่อาจทำให้แผ่นตะกั่วภายในแบตเตอรี่เสียหายได้


ประโยชน์การใช้งาน

ไฮดรอมิเตอร์สามารถวัดค่าความเป็นกรดของน้ำในแบตเตอรี่ว่ามีความเข้มข้นหรือเจือจางเพื่อสามารถจะปรับสภาพน้ำในแบตเตอรี่ ให้อยู่ในค่าที่ปรกติสามารถใช้งานได้นั่นก็คือ 1.25-1.28นั่นเอง เพื่อที่จะพื้นคืนสภาพให้แบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพกลับน้ำมาใช้งานได้ใหม่อีกครั้งหนึ่งเป็นการยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวนานยิ่งขึ้น




คลิ๊ปการใช้งานไฮโดรมิเตอร์ 


  • รหัส/รุ่น: DYMEA-110S08 ไฮโดรมิเตอร์ กล่องส้ม
  • สถานะสินค้า: มีสินค้า
  • 300.00บาท
  • 240.00บาท

คำค้น: hydrometer, ไฮโดรมิเตอร์